- ลักษณะหน้าเอกสาร web document อย่างเดียว
- มีระบบบริหารการเรียนรู้(LMS)
- มีระบบบริหารเนื้อหา/หลักสูตร(CMS)
ฐานการเรียนรู้ลักษณะหน้าเอกสาร web document อย่างเดียว
จากพัฒนาการของเอกสารไปสู่เอกสารอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าสู่ระบบเครือข่ายการเป็นเอกสารเว็บหรือweb document ได้ ปฎิวัติรูปแบบการเรียนรู้ที่รวดเร็ว กว้างไกลด้วยคุณสมบัติต่างๆทั้งการแก้ไข ปรับแต่ง ดัดแปลง ปรับปรุง เผยแพร่ แบ่งปัน ได้ไกล และรวดเร็ว การสร้าง web document จึงเป็นรูปแบบแรกที่ผู้พัฒนาสื่อการเรียนรู้นิยมใช้มากที่สุด ภายใต้ภาษา html พื้นฐาน (ซึ่งจะมีแบบ text ล้วน หรือ text ปนภาพ หรือ text ปนมัลติมีเดียรูปแบบอื่นๆ)เป็นระบบที่ใช้บริหารจัดการการเรียนรู้ผ่านเว็บประกอบด้วยเครื่องมืออำนวยความสะดวกที่อำนวยความสะดวกให้ครูผู้สอน สามารถนำเนื้อหาและสื่อการสอนนำเข้าสู่ระบบได้โดยง่าย ซึ่งระบบจะกำหนดลำดับของเนื้อหาในบทเรียนส่งผ่านเครือข่าย ไปยังผู้เรียน ระบบจะติดตาม บันทึกผลความก้าวหน้าผู้เรียนได้อย่างละเอียด ตั้งแต่การเข้าใช้งาน การเข้าสู่เนื้อหาการเรียนรู้ สถิติเวลาเข้าใช้งาน รวมถึงมีการเก็บบันทึกข้อมูล กิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนไว้ในระบบซึ่งข้อมูลเหล่านี้ครูผู้สอนสามารถ นำข้อมูลไปวิเคราะห์ประเมินผลหลักสูตร รวมถึงสภาพของการเรียนการสอนในรายวิชานั้นๆได้ นอกจากนี้ ผู้เรียน ครูผู้สอน และผู้ดูแลระบบ ยังสามารถใช้เครื่องมือสื่อสารที่ในระบบมีติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้
ระบบ LMS ประกอบด้วยองค์ประกอบย่อยๆหลายส่วน คือ
- ส่วนเนื้อหาในบทเรียน (Lecture and Presentation)
- ส่วนของการทดสอบในบทเรียน (Testing)
- ส่วนของการพูดคุยในห้องสนทนา (Chat)
- กระดานข่าว (Webboard)
- ส่วนของการติดต่อผ่าน E-mal
- ส่วนสนับสนุนการเรียนการสอน
- การลงทะเบียนของผู้เรียน
- การบันทึกคะแนนของผู้เรียน
- การรับ-ส่งงานของผู้เรียน
- การเรียกดูสถิติของการเข้าเรียน
เป็นระบบที่มีหน้าที่ในการจัดการเนื้อหาหรือข้อมูลเป็นหลัก ตามลักษณะงานของเว็บไซต์นั้นๆ CMS จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยประหยัดทรัพยากรในการพัฒนาและบริหารเว็บไซต์ ทั้งเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา เพื่อช่วยลดเวลา อำนวยความสะดวกในการบริหารเว็บไซต์นั้นๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ลักษณะเฉพาะจะคล้ายกับ LMS ที่ให้ผู้ดูแลระบบหรือ ครูผู้สอนนั้น สามารถจัดการเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว เพียงแต่จะขาดส่วนของผู้เรียนรู้ ไม่มีการติดตาม ประเมินผลผู้เรียน เน้นการจัดการระบบผ่านเว็บ รูปแบบจะเน้นการจัดการนำเข้าและเผยแพร่ข้อมูลบทเรียน, การนำเสนอบทความ(Articles), เว็บไดเรคทอรี(Web directory), เผยแพร่ข่าวสารต่างๆ(News), หัวข้อข่าว(Headline), ข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจ(Informations), ถาม/ตอบปัญหา(FAQs), ห้องสนทนา(Chat), กระดานข่าว(Forums), การจัดการไฟล์ในส่วนดาวน์โหลด(Downloads), แบบสอบถาม(Polls), ข้อมูลสถิติต่างๆ(Statistics) และอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มเติม ดัดแปลง แก้ไขแล้วประยุกต์นำมาใช้งานให้เหมาะสมตามแต่รูปแบบและประเภทของเว็บไซต์นั้นๆ
ในการจัดการศึกษาออนไลน์วัฒนาการได้ก้าวไกลไปสู่ธุรกิจทางการศึกษาออนไลน์ ที่ผู้เรียนจะต้องลงทะเบียนในการซื้อคอร์สเพื่อเข้าศึกษาเรียนรู้ ระบบจะสนับสนุนสาระการเรียนรู้ สื่อ กิจกรรมต่างๆ รวมถึงระบบครูที่ปรึกษาอย่างพร้อมมูล ติดตามการเรียนรู้ตั้งแต่แรกเข้า จนจบหลักสูตร