1. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ พิจารณาเชิงเทคโนโลยี
2. องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ พิจารณาเชิงระบบ
จะประกอบด้วยเทคโนโลยี 2 สาขาหลัก คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
- เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งที่บอก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้ คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า ซอฟต์แวร์ (Software) (มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2546: 4)
- เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม ใช้ในการติดต่อ สื่อสาร รับ-ส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง เป็นการส่งของข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกัน ซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และทันการณ์ ซึ่งรูปแบบของข้อมูลที่รับ/ส่งอาจเป็นตัวเลข (Numeric Data) ตัวอักษร (Text) ภาพ (Image) และเสียง (Voice) เทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารหรือเผยแพร่สารสนเทศ ได้แก่ เทคโนโลยีที่ใช้ในระบบโทรคมนาคมทั้งชนิดมีสายและไร้สาย เช่น ระบบโทรศัพท์, โมเด็ม, แฟกซ์, โทรเลข, วิทยุกระจายเสียง, วิทยุโทรทัศน์ เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง คลื่นไมโครเวฟ และดาวเทียม เป็นต้น
2.องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ พิจารณาเชิงระบบ
จะพบว่าระบบสารสนเทศจะประกอบด้วยองค์ประกอบต่างที่จะนำพาให้ระบบสารสนเทศทำงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ มี 5 ส่วนคือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล บุคคลากร ระเบียบปฏิบัติการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
2.1 ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
หมายถึงเครื่อง(ระบบ)คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ประกอบด้วย 5 ส่วน คือ
- อุปกรณ์รับข้อมูล (Input) เป็นส่วนสำหรับสร้างข้อมูลอักขระ(ตัวเลข ตัวอักษร คำสั่ง) ผ่านแป้นพิมพ์หรือ Keyboard กำหนดคำสั่งสำเร็จรูปผ่านเมาส์ หรือประมวลแปลผลจากภาพเป็นข้อมูลด้วย Scanner หรือการอ่านรหัสข้อมูลแถบเส้นด้วย Bar Code Reader เป็นต้น
- อุปกรณ์แสดงข้อมูล (Output)
เป็นส่วนแสดงผลข้อมูล ที่จะปรากฎในรูปที่มองเห็นผ่านจอภาพ (Monitor) หรือในรูปของเอกสารผ่านเครื่องพิมพ์ (Printer) หรือถูกส่งผ่านอุปกรณ์แสดงผลอื่นๆ อาทิ เครื่อง projector - หน่วยประมวลผลกลาง หรือที่เรียกว่า CPU (Central Processing Units) มีหน้าที่รับข้อมูลจากส่วนอินพุตเข้ามาประมวลผล ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณ การย้าย การปรับปรุงข้อมูลตามคำสั่ง แลัวส่งผลที่ได้ออกไปยังส่วนของเอาท์พุตตามที่กำหนดไว้
- หน่วยความจำหลักมีหน้าที่เก็บข้อมูลที่ใช้ในการทำงาน ข้อมูลนี้ มีทั้งข้อมูลที่ถูกติดตั้งเป็นข้อมูลระบบ ข้อมูลแลำคำสั่งโปรแกรมทำงานด้านต่างๆ และข้อมูลผลลัพธ์จากการประมวลผล จากการคำนวน ซึ่งข้อมูลนี้จะถูกนำเข้าจากอุปกรณ์รับข้อมูลภายนอก หรือจากการทำงานประมวลผลจากโปรแกรมภายในเครื่อง หน่วยความจำหลักที่รู้จักกันดี จะรู้จักในชื่อของ harddisk
- หน่วยความจำสำรอง หรือที่รู้จักในชื่อของ RAM ซึ่งย่อมาจากคำว่า Random-Access Memory เป็นหน่วยความจำของระบบ มีหน้าที่รับข้อมูลเพื่อส่งไปให้ CPU ประมวลผลซึ่ง RAM นี้ จะต้องมีไฟเข้าเลี้ยงภายใน Module ของ RAM ตลอดเวลา ลักษณะจะเป็นแผงวงจร หรือ Circuit Board ขนาดเล็กที่เรียกว่า ICปัจจุบันเทคโนโลยีของหน่วยความจำมี 2 แบบ คือ5.1) หน่วยความจำแบบ DDR หรือ Double Data Rate (DDR-SDRAM, DDR-SGRAM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากเทคโนโลยีของหน่วยความจำแบบ SDRAM และ SGRAM5.2) หน่วยความจำแบบ Rambus
2.2 ซอฟต์แวร์ (Software)
หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า โปรแกรมคอมพิวเตอร์ นับได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญและจำเป็นมากในการควบคุมการทำงาน การกำหนดคำสั่งให้ชิ้นส่วน อุปกรณ์หรือฮาร์ดแวร์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน เพื่อประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ ซอฟต์แวร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
- Operating System หรือจะเรียกรวมว่า ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ มีหน้าที่ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในระบบคอมพิวเตอร์ และเป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสาร ระหว่างผู้ใช้งานกับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ตัวอย่างโปรแกรมที่นิยมใช้กัน ในปัจจุบัน เช่น ระบบปฏิบัติการ Windows ระบบปฏิบัติการ UNIX ระบบปฏิบัติการ Linux เป็นต้น
- Application หรือซอฟต์แวร์ประยุกต์ เป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้ และเพื่อใช้สนับสนุนการจัดการทั่วไป (Word Processing, Spreadsheet.) ด้านการเชื่อมโยงการสื่อสาร (web browser หรือ Messenger หรือ e-mail) หรือเป็นโปรแกรมพิเศษที่ถูกเขียนหรือพัฒนาขึ้นเพื่อทำงานเฉพาะด้านหนึ่งๆ ตามลักษณะความต้องการ(โปรแกรมจัดการร้านค้า โปรแกรมควบคุมสินค้า หรือ โปรแกรม Karaoke)
2.3 ข้อมูล(Data)
คือ ข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงาน และการปฏิบัติการทึ่ต้องเก็บรวบรวมไว้เพื่อใช้ประกอบการอ้างอิง การตัดสินใจและการปฏิบัติงาน ข้อมูลจะมีโครงสร้างในการจัดเก็บที่เป็นระบบระเบียบมีแบบแผนมาตรฐาน เพื่อการสืบค้นที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ
ชนิดของข้อมูล (Types of Data)
เราสามารถแบ่งข้อมูลออกเป็น 4 ชนิด ดังนี้ (Alter 1996 : 151-152, Stair and Reynolds 2001 : 5)
- ข้อมูลที่เป็นอักขระ (Alphanumeric Data) ได้แก่ ตัวเลข (Numbers) ตัวอักษร (Letters) เครื่องหมาย (Sign) และ สัญลักษณ์ (Symbol)
- ข้อมูลที่เป็นภาพ (Image Data) ได้แก่ ภาพกราฟิก (Graphic Images) และรูปภาพ (Pictures)
- ข้อมูลที่เป็นเสียง (Audio Data) ได้แก่ เสียง (Sounds) เสียงรบกวน/เสียงแทรก (Noise) และเสียงที่มีระดับ (Tones) ต่างๆ เช่น เสียงสูง เสียงต่ำ เป็นต้น
- ข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหว (Video Data) ได้แก่ ภาพยนตร์ (Moving Images or Pictures) และ วีดิทัศน์ (Video)นอกจากนั้นยังพบว่ามีข้อมูลในลักษณะของกลิ่น (Scent) และข้อมูลในลักษณะที่มีการประสมประสานกัน เช่น มีการนำเอาข้อมูลทั้ง 4 ชนิดมารวมกันเรียกว่า สื่อประสม (Multimedia) แต่ถ้ามีการประสมข้อมูลที่เป็นกลิ่นเข้าไปด้วย เราเรียกว่า Multi-scented
2.4 บุคลากร (People)
ก็คือ กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด มีตั้งแต่ระดับผู้ใช้งานทั่วไป ผู้บริหารองค์กร หน่วยงาน ผู้พัฒนาและวิเคราะห์ระบบ ผู้ควบคุมระบบ และนักเขียนโปรแกรม ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในความสำเร็จของระบบสารสนเทศ ซึ่งสามารถจำแนกคร่าว ๆ ได้ 3 กลุ่มดังนี้
- Analysis หรือ นักวิเคราะห์ระบบ ทำหน้าที่วิเคราะห์ ออกแบบโครงสร้างของระบบในองค์กรเพื่อนำคอมพิวเตอร์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- Programmer หรือนักพัฒนาโปรแกรม ( คนเขียนโปรแกรม ) ทำหน้าที่สร้าง พัฒนาโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์
- User หรือเรียกว่าผู้ใช้งานโปรแกรม
ในแต่ละองค์กรหากบุคลากรมีความรู้ ความสามารถทางคอมพิวเตอร์มากเท่าใด โอกาสที่จะเข้าถึง เพื่อการใช้งานระบบ สารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ได้เต็มศักยภาพและคุ้มค่ายิ่งมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะระบบสารสนเทศในระดับบุคคล ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์มีขีดความสามารถมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้มีโอกาสพัฒนาความสามารถของตนเองและพัฒนาระบบงาน ได้เองตามต้องการ สำหรับระบบสารสนเทศในระดับกลุ่มและองค์การที่มีความซับซ้อนมากอาจจะต้องใช้บุคลากรในสาขา คอมพิวเตอร์โดยตรงมาพัฒนาและดูแลระบบงาน
2.5 ระเบียบปฎิบัติการหรือขั้นตอนการปฏิบัติงาน(Procedure)
เป็นระเบียบวิธีการเข้าถึงข้อมูลของเครื่อง ข้อมูลส่วนรวม การใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล(ขั้นตอนการบันทึกข้อมูล ขั้นตอนการประมวลผล ขั้นตอนปฏิบัติงานในแต่ละโปรแกรม) การใช้งาน(ข้อมูล)เครือข่าย การดูแลรักษา การปฎิบัติตามกฎหมายว่าด้วย พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องมีความรู้ ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อพัฒนาการความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คำอธิบายคำว่า ระบบ หมายถึง ส่วนต่างๆ ที่ประกอบกันขึ้นโดยองค์ประกอบเหล่านั้น สามารถทำงานได้อย่างอิสระ แต่มีปฏิสัมพันธ์ในการดำเนินงาน เพื่อแก้ปัญหาหรือช่วยให้การทำงานนั้นบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ สารสนเทศ สามารถหมายถึงคุณภาพของข้อความจากผู้ส่งไปหาผู้รับ สารสนเทศจะประกอบไปด้วย ขนาดและเหตุการณ์ของสารสนเทศนั้น สารสนเทศสามารถแทนข้อมูลที่มีความถูกต้องและความแม่นยำหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งข้อเท็จจริงหรือข้อโกหกหรือเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น สารสนเทศจะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ส่งข้อความและผู้รับข้อความอย่างน้อยฝ่ายละหนึ่งคน ซึ่งทำให้เกิดการสื่อสารของข้อความและเข้าใจในข้อความเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับ ความหมาย ความรู้ คำสั่ง การสื่อสาร การแสดงออก และการกระตุ้นภายใน การส่งข้อความที่มีลักษณะเป็นสารสนเทศ ในขณะเดียวกันการบกวนการสื่อสารสารสนเทศก็ถือเป็นสารสนเทศเช่นเดียวกัน (wiki)